หลังจบเกมที่ ‘ทัพปืนใหญ่‘ ล้างอาถรรพ์บุกไปปล้นชัยชนะที่ กูดิสัน พาร์ค ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นายด่านชาวสเปนที่ลงเล่นเกมแรกอย่างเป็นทางการถูกพูดถึงและได้รับคำชื่นชมจากแฟนบอลเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องของการเปิดบอลยาวที่ทำได้ค่อนข้างแม่นยำและการเซ็ตเกมจากหลังบ้านที่ดูเข้าขากับแนวรับเป็นอย่างดี "วันนี้เราจึงขออาสาพามาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นอีกสักหน่อย"

ดาบิด ราย่า เกิดที่ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน แต่เจ้าตัวกลับหลงใหลในสไตล์การเล่นของ เรอัล มาดริด ดังนั้นเขาจึงฝึกซ้อมฟุตบอลโดยพยายามเลียนแบบ อิเคร์ คาซิยาส มาโดยตลอด ขณะที่อายุได้เพียง 9 ขวบ เขาถูก คอร์เนลลา สโมสรในลีกระดับ 3 ของประเทศเรียกตัวเข้าสู่รั้วอะคาเดมี่ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปทดสอบฝีเท้ากับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในวัยย่างเข้า 16 ปี ตามโครงการเฟ้นหายอดแข้งเยาวชนจากทุกมุมโลก

ในตอนแรก ราย่า ถือว่าเป็นเด็กที่มีส่วนสูงไม่มากนักสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู และถึงแม้ว่าเขาจะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและการผ่านบอลที่แม่นยำมากเพียงใด แต่ทว่า แบล็คเบิร์น กลับดูลังเลที่จะเซ็นสัญญากับเด็กหนุ่มผู้นี้ เพราะพวกเขามองว่าสกิลการใช้เท้ามันไม่จำเป็นสำหรับการเซฟประตูในยุคนั้น แต่ในท้ายที่สุดหลังจากถูกโน้มน้าวโดยโค้ชที่พาตัวเขาเข้ามาคัดเลือก ทีมกุหลาบไฟ จึงน้อมรับกล้าเสี่ยงและตกลงปลงใจกับดีลนี้

กระทั่ง 3 ปีต่อมา เขาถูกปล่อยตัวให้กับ เซาธ์พอร์ต ทีมระดับคอนเฟอเรนซ์ พรีเมียร์ คลับ (นอกลีก) ยืมใช้งานด้วยสัญญาระยะสั้นเพียง 4 เดือน และก็กลายเป็น ‘นายด่านชาวสแปนิช‘ ที่พลิกสถานการณ์ช่วยให้สโมสรกลับมาทำผลงานได้ดีจากที่เคยนอนจมกองบ๊วยอยู่ท้ายตาราง จนทำให้ต้นสังกัดเรียกตัวเขากลับมาเฝ้าเสาให้กับทีมหลังจากที่หมดสัญญาทันที จากนั้น ราย่า เริ่มขยับบทบาทของตัวเองในฐานะนักฟุตบอลอาชีพได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งของทีมอย่างเต็มตัวในซีซั่น 2017/2018 และมีส่วนสำคัญช่วยให้ ‘ทัพกุหลาบไฟ‘ กลับขึ้นมาสู่เวที เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ฤดูกาลเดียวหลังจากตกชั้น กับผลงานการลงเฝ้าเสา 45 นัด 17 คลีนชีต

จุดเริ่มต้นของความสำเร็จข้างต้น ส่งผลให้ชื่อของ ดาบิด ราย่า ได้รับการจับตามองมากขึ้น ด้วยวัยเพิ่งผ่าน 20 ปี เขาถูก เบรนท์ฟอร์ด ดึงตัวไปเฝ้าเสาด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ พร้อมการันตีการเป็นมือหนึ่งของทีม ซึ่งการมาอยู่กับ ‘ทัพผึ้งพิฆาต‘ เขาสถาปนาความสำเร็จของตัวเองด้วยการพาสโมสรเลื่อนชั้นสู่เวทีพรีเมียร์ลีกหลังจากหักด่าน สวอนซี ซิตี้ ไปได้ 2-0 พร้อมสถิติการจ่ายบอลทั้งฤดูกาลเสมือนเป็นแข้งเอาต์ฟิลด์มากกว่า 300 ครั้ง

แม้ในเวลานี้ ราย่า ยังคงไม่ใช่นักเตะของ อาร์เซนอล แบบเต็มประดา แต่ทว่าการที่ มิเกล อาร์เตต้า เลือกยืมตัวนักเตะสักคนมาใช้งาน เขามักจะมองปัจจุบัน-อนาคตไว้ว่าผู้เล่นคนนั้นจะมีส่วนสำคัญกับระบบการเล่นของทีมและพร้อมโน้มน้าวซื้อตัวเข้ามาอย่างถาวร เฉกเช่นเดียวกับมิดฟิลด์คนสำคัญอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด รอดูกันต่อไปนะ..ชาวกูนเนอร์ส!

เขียนโดย The Lite Team.